ตลท.เผย SMEs – สตาร์ทอัพกว่า 10 ราย ต่อคิวเทรด LiVE Exchange

ตลท.เผย SMEs – สตาร์ทอัพกว่า 10 ราย ต่อคิวเทรด LiVE Exchange

ตลาดหลักทรัพย์ฯ เผย เอสเอ็มอี – สตาร์ทอัพ 10 ราย เตรียมพร้อมระดมทุน กระดานหุ้นที่ 3 “ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์” คาดเปิดเทรดเร็วสุดไตรมาส 2/65 เบื้องต้นจะเปิดซื้อขายเปลี่ยนมือวันละครั้ง

นายณัฐพล สุวรรณสิริ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าของ “ตลาดหลักทรัพย์ไลฟ์เอ็กซ์เช้นจ์” (LiVE Exchange) หรือกระดานหุ้นที่ 3 ที่เปิดให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และสตาร์ทอัพเข้ามาระดมทุน โดยปัจจุบัน ตลท. ได้นำเสนอหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนและการซื้อขายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) พิจารณา โดยคาดว่าหลักเกณฑ์ที่นำเสนอไปจะมีผลบังคับใช้ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2565 และคาดว่าจะเปิดให้บริการ LiVE Exchange ได้เร็วสุดในไตรมาสเดียวกัน

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งเป้าหมายให้ LiVE Exchange เป็นสปริงบอร์ด (Springboard) สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก โดยหวังว่ากระดานหุ้นที่ 3 นี้ จะเป็นจุดตั้งต้นให้ SMEs และสตาร์ทอัพสามารถเข้ามาระดมทุนในตลาดทุน รวมถึงเพิ่มความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ ที่มีต่อผู้ถือหุ้น เพื่อต่อยอดเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในระยะถัดไปโดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการแสดงความสนใจและอยู่ในไปป์ไลน์เตรียมพร้อมระดมทุนแล้วประมาณ 10 ราย

สำหรับรายละเอียดการซื้อขาย แม้จะไม่ได้เปิดให้ผู้ลงทุนทั่วไปเข้ามาลงทุน เพราะต้องเป็นผู้ลงทุนที่ ก.ล.ต.อนุญาตเท่านั้น แต่การซื้อขายจะต้องทำผ่านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เช่นเดียวกับการซื้อขายหุ้นปกติ ซึ่งปัจจุบันมี บล.ตอบรับแล้วประมาณ 25 บริษัท โดยระยะแรกของการซื้อขาย ตลท.จะกำหนดให้ใช้บัญชีเงินสด (แคชบาลานซ์) และกำหนดให้ล็อกหุ้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการส่งมอบ ก่อนจะส่งมอบหุ้น และชำระราคาภายในวันที่ซื้อขาย

ทั้งนี้ LiVE Exchange จะเปิดให้ซื้อขายวันละ 1 รอบเท่านั้น โดยจะเปิดให้ส่งคำสั่งในช่วง 9.30-11.00 น. เพื่อให้นักลงทุนวางราคาเสนอซื้อ (Bid) และราคาเสนอขาย (Offer) ก่อนจะประมวลผลและจับคู่คำสั่งซื้อขาย ซึ่งมองว่ารูปแบบการซื้อขายในเบื้องต้นนี้เหมาะสมกับผู้ลงทุนใน LiVE Exchange ที่มีความต้องการถือหุ้นเพื่อลงทุนระยะยาว โดยมีตลาดรองเพื่อให้ซื้อขายเปลี่ยนมือเท่านั้น แตกต่างจากตลาดหุ้นที่มีในปัจจุบันที่มีการซื้อขายหลายรอบเพื่อเก็งกำไร แต่หากในอนาคตสภาพคล่องเพิ่มขึ้น ตลท.จะพิจารณาขยายระยะเวลาซื้อขายต่อไป

นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการส่งสัญญาณเตือน (Warning Sign) ในกรณีที่บริษัทที่ระดมทุนใน LiVE Exchange ไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด เช่น ไม่สามารถนำส่งงบการเงินได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่ผู้ลงทุนต้องพิจารณา แต่ไม่ได้ระงับการซื้อขาย เนื่องจากมองว่าผู้ลงทุนในตลาดหุ้นดังกล่าวมีความรู้ และประสบการณ์ สามารถพิจารณาปัจจัยเสี่ยงภายหลังจากเห็นสัญญาณเตือนแล้ว

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/business